ประพันธสรรพนาม คือ สรรพนามที่ใช้แทนนามหรือสรรพนามที่อยู่ข้างหน้าและทำหน้าที่เชื่อมประโยค ได้แก่ คำว่า ที่ ซึ่ง อัน ตำแหน่งของคำสรรพนามนี้จะเรียงชิดติดอยู่กับคำนามหรือสรรพนามเสมอ เช่น
ฉันเกลียดหมูที่มีมัน |
นักเรียนซึ่งขยันเรียนสอบได้ที่ 1 |
เพชรอันมีรอยร้าวย่อมมีค่า |
สรรพนามใช้เน้นความรู้สึกของผู้พูด จะเรียงไว้หลังคำนามเพื่อเน้นความรู้สึกต่างๆ ของผู้พูด ความรู้สึกยกย่อง คุ้นเคย ดูหมิ่น หรือความรู้สึกอย่างใดก็ได้ เช่น
นี่! เจ้าเหมียวแกจะซนไปถึงไหน |
พุทโธ! ใครจะไปโทษเด็กมันได้ลงคอ |
อาจารย์ท่านเมตตาต่อลูกศิษย์เสมอต้นเสมอปลาย |
- บุรุษสรรพนามอาจเป็นได้หลายบุรุษ ขึ้นอยู่กับหน้าที่ของคำเป็นสำคัญ เช่น
- เราจะทำงานบ้าน (เป็นบุรุษที่ 1)
- เราน่ะ ทำงานบ้านเสร็จแล้วหรือ (เป็นบุรุษที่ 2)
- วันนี้เขาเหนื่อย เขาขอหยุดพักหนึ่งวันนะ (เป็นบุรุษที่ 1)
- วิภาคสรรพนาม คำว่า ต่าง บ้าง กัน นั้นต้องใช้แทนนาม หรือสรรพนาม ถ้าทำหน้าที่ขยายคำนาม คำสรรพนาม กริยา วิเศษณ์ จัดเป็นคำวิเศษณ์ เช่น
- ชายบ้างหญิงบ้าง
- เรียนบ้างเล่นบ้าง
- ต่างจิตต่างใจ
คำบ้างและต่างด้านบนนี้ เป็นคำวิเศษณ์ขยายคำนามและคำกริยา
- ปฤจฉาสรรพนาม กับอนิยมสรรพนาม ปฤจฉาสรรพนามทำให้ประโยคมีเนื้อความเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ ส่วนอนิยมสรรพนามไม่ทำให้ประโยคเป็นประโยคคำถาม เช่น
- ใครไม่ทำเลขข้อนี้ (ใคร เป็นคำถามต้องการคำตอบ)
- ใครไม่ทำเลขข้อนี้ก็ได้ (ใคร เป็นความบอกเล่าที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง ไม่ต้องการคำตอบ)
คำสรรพนามทำหน้าที่ได้หลายประการดังต่อไปนี้
- เป็นประธาน เช่น
- เธอรู้สึกไม่สบายมากวันนี้
- ฉันจะไปเที่ยวเชียงใหม่
- เป็นกรรม เช่น
- เธอชอบอะไร
- อย่าไปโทษเธอเลย
- ใช้เรียกขาน เช่น
- ท่านคะ ใครมา
- เป็นส่วนเติมเต็ม เช่น
- เด็กคนนี้เหมือนเธอมาก
- ช่างเครื่องยนต์ที่เชี่ยวชาญที่สุดคือเขา
- คำสรรพนามบางคำใช้แสดงความรู้สึกของผู้พูดหรือบอกฐานะของบุคคลที่กล่าวถึง เช่น
- อาจารย์ท่านสอนเก่งมาก
- ตาทองแกทำไร่
- นิยมสรรพนามใช้ชี้ระยะ เช่น
- นี่ใกล้กว่านั้นและโน่นไกลที่สุด
- อนิยมสรรพนามใช้บอกความไม่เจาะจง หรือแสดงความสงสัย เช่น
- ฉันไม่เห็นอะไรอยู่ในตู้
- ประพันธสรรพนามใช้เชื่อมประโยค เช่น
- ฉันรักคนไทยที่รักชาติไทย